ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

ดูหนังดูละครแล้วมาคุยกัน

มีภาพยนต์หรือเรียกง่ายๆว่าหนังตอนนี้ดังมากคือเรื่อง โนอาห์ ดูไปพลางๆก่อนนะครับ เย็นนี้จะเข้ามาวิจารณ์ครับ มีคริสเตียนเห็นชอบและโจมตีต่อต้านกันเยอะครับ ผมยังไม่ได้ดูครับแต่จะวิจารณ์ในแง่นอกกรอบคริสเตียนครับ



เท่าที่ดูและอ่านคำวิจารณ์จากหลายๆแหล่งก็ขอออกความคิดเห็นบางอย่างนะครับ 
ไม่เคยมีใครเห็นของจริง หรืออยู่ในเหตุการณ์ของยุคนั้น ดังนั้นการตีความหมายหรือแปลความหมายจากพระคัมภีร์ย่อมไม่เหมือนกัน จะบอกว่าใครถูกใครผิด ถามว่าเอาอะไรมาตัดสิน เพราะในพระคัมภีร์เองก็มีบอกถึงสิ่งต่างๆที่เราก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ผู้สร้างหนังก็พยายามตีความหมายตามรูปแบบของความบันเทิงมากกว่าศาสนาศาสตร์ ก็จึงเป็นจุดสนใจของการวิจารณ์ในครั้งนี้ครับ

หลายครั้งที่เรายึดศาสนามากกว่าความจริง อะไรที่มันนอกกรอบของศาสนาพิธี ศาสนาศาสตร์ จารีตประเพณี คำสอนศาสนาที่ตกผลึก จนแยกไม่ออกระหว่างศาสนากับความจริง มันจึงเป็นปัญหา กลายเป็นคลั่งมากกว่าเคร่ง คำสอนหลักศีลธรรมของศาสนาเป็นเพียงเป้าหมายวัตถุประสงค์ที่สูงส่งแต่ไม่มีผลอะไรในชีวิตประจำวันของศาสนิกชนเลย

กลายเป็นคลั่งศาสนามากกว่าเคร่งศาสนา ปกป้องศาสนา ทำสงครามรบราฆ่าฟันกันเพื่อปกป้องพระศาสนาแต่ตัวเองกลับเป็นฆาตกรศาสนาเสียเองกลับมองไม่เห็นความจริงนี้ คือผู้ทำลายศาสนาในการทำบาปในแต่ละวัน

สรุปสั้นๆตอนนี้ก่อนนะครับ อย่าไปมองหาจับผิดในหนังนี้ว่าไม่ตรงศาสนาศาสตร์ แม้ว่าผู้สร้างจะจิตนาการ มนุษย์ยักษ์บนแผ่นดิน บุตรชายของพระเจ้าแบบสุดโลกไปก็ตาม แต่ดูว่าจินตนาการเบื้องหลังของสิ่งเหน่านี้ไปไปได้มากน้อยเพียงไร

การที่ศาสนิกชนในศาสนาไม่ว่าคริสต์ อิสลาม ออกมาประท้วงหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้ผมต้องไปดูหนังเรื่องนี้ที่มีพี่น้องส่งมาให้วิจารณ์ ก็เห็นอะไรอีกหลาย เดี๋ยวเราจะมาคุยกันต่อครับ คืนนี้ง่วงเสียก่อนครับ พรุ่งนี้คุยกันต่อครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. ผมดูแล้วก็ไม่แตกต่างไปจากหนังไซไฟอิ่นๆเท่าไหร่เลยครับ จริงแล้วที่มากยิ่งกว่านี้หลายคนก็ดูแล้วไม่เห็นว่ามันร้ายกาจอะไรเพราะไม่ใช่พระคัมภีร์ พระคัมภีร์บอกเราว่าถ้าจะบันทึกรายละเอียดทุกอย่างของทุกคนในพระคัมภีร์ให้หมด ไม่มีหนังสือใดในโลกนี้จะสามารถบันทึกได้ครบหมดหรอกครับ เรื่องหนึ่งที่อยากจะให้เราคิดร่วมกันครับ ว่าฮีโร่ในพระคัมภีร์ก็เป็นผู้เป็นคนอย่างเราๆท่านๆมีจัดอ่อนเหมือนกัน

    มีบทความหนึ่งจากคริสตจักร St. Louis Inspirational Christian Connectionที่มีพี่น้องท่านหนึ่งแปลว่า

    โมเสสเป็นคนติดอ่าง เสื้อเกราะของดาวิดก็หลวม จอห์น มาร์ระโกทิ้งอาจารย์เปาโล ทิโมธีก็มีรอยแผลเป็นเต็มตัวไปหมด ภรรยาของโฮเชก็เคยเป็นโสเภณีมาก่อน อามอสได้รับการฝึกอย่างเดียวคือการตัดแต่งต้นมะเดื่อ เจคอบเป็นคนโกหก ดาวิดก็ผิดลูกผิดเมียเขา โซโลมอนก็ร่ำรวยเกินไป พระเยซูก็แสนจะยากจนอยู่กินกับพวกข้าราชการคดโกง หญิงโสเภณี อับราฮัมก็แก่เกินไป ดาวิดก็ยังเด็กอยู่ เปโตรก็กลัวความตาย ลาซารัสก็เสียไปแล้ว ยอห์ก็คิดว่าตนเองเป็นผู้ชอบธรรม นาโอมีเป็นแม่หม้าย เปาโลเคยทำร้ายคริสเตียน โมเสสได้ฆ่าคน โยนาไม่ทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า มาเรียมชอบนินทา ทั้งกีดิโอนและโทมัสเป็นคนขี้สงสัย เยรามีมีความขมขื่นและฆ่าคน เอลีจาถูกเผา ยอห์นเดอะแบบติสปากโป้ง มาธาร์เป็นคนขี้กังวล โนอาร์เมาเหล้า โมเสสเป็นคน เข้ากับคนได้เร็ว เปาโล เปโตรก็เหมือนกัน

    สิ่งเหล่านี้ก็ไม่แตกต่างไปจากชีวิตของเราในยุคนี้เช่นกัน แต่ทำไมก็ยังมีบางคนก็ทำตัวเหมือนกับว่าบริสุทธิ์กว่าคนอื่น มองเห็นผงฝุ่นในตาคนอื่นแต่ซุงในตาของตัวเองกลับมองไม่เห็น คำตอบก็คือ ความคลั่งในศาสนาครับ

    ตอบลบ
  2. ความเข้าใจผิดๆของการรับใช้ บ่อยครั้งที่พระเจ้ามีงานให้ผู้แทนพระองค์กระทำครั้งเดียวแล้วไม่เรียกใช้อีกเลย เราก็ต้องพอใจอย่าน้อยใจ ท้อใจ หรือฝืนพระเจ้าฝืนใจ หลอกใจตัวเองที่คิดว่าพระเจ้าจะใช้งานนี้ตลอดไป ก็หาวิธีด้วยตนเองเพื่อให้มนุษย์ยอมรับ ก็เลยต้องใส่หน้ากาก สร้างภาพว่าพระเจ้ายังใช้ฉันอยู่ พยายามหางานทำให้คนเห็นผลงาน เลยกลายเป็นเล่นละครศาสนาขึ้นมาครับ จริงๆแล้วพระเจ้ามีงานที่จะให้ผู้รับใช้ทำเยอะครับ เพียงแต่เขาไม่ยอมออกมาจากกะลาของเขามาดูโลกกว้างที่เขาไปถึงไหนกันแล้วครับ ตราบใดที่เรายึดกรอบศาสนาอยู่อย่างนั้น พระเจ้าใช้ยากครับ

    ตอบลบ