
แท่นบูชา หรือแท่นเผาเครื่องบูชาที่พระเจ้ามอบหมายให้มาตั้งแต่สมัยโมเสสนั้นมีต่ำแหน่งที่ตั้งของแท่นบูชานี้เจาะจงจากพระเจ้าโดยตรง
แท่นบูชาเป็นสถานที่ปุโรหิตเอาเครื่องบูชามาเผาถวายพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นสัตวบูชา หรือธัญญบูชา ก็จะเผาบนแท่นนั้น
เมื่อกษัตริย์อาหับได้ไปเห็นแท่นบูชาของคนต่างชาติที่ดูหรูหรากว่า งดงาม ประดับประดาต่างๆจนดูไม่น่ากลัว พระองค์ก็จำลองแบบและเปลี่ยนเครื่องเผาบูชาของพระเจ้าและย้ายแท่นบูชาของพระเจ้าเอาไปไว้ที่อื่น และยังเปลี่ยนทางเข้าออกพระนิเวศเพื่อเห็นแก่พระราชาอัสซีเรีย
คงพอจะมองออกแล้วนะครับว่ากษัตริย์อาหับพลาดความเข้าใจเรื่องแท่นบูชาของพระเจ้า พยายามเอาใจกษัตริย์อัสซีเรีย สร้างแท่นเผาบูชาแบบดามัสกัสคงจะหรูหราน่าดูกว่าแบบของพระเจ้าที่เรียบง่าย พยายามย้ายที่ตั้งพระนิเวศในพระวิหารเพื่อไม่ให้มองเห็นพิธีกรรมเผาบูชาแบบอิสราเอล ที่อาจจะมีทั้งเลือด น้ำเหลืองเจิ่งนองบนแท่นบูชา
กษัตริย์อาหับคงลืมไปว่าแท่นบูชานั้นเป็นสถานที่ลบล้างบาปของมนุษย์กับพระเจ้า ไม่ใช่ที่จะไปอวดใครที่ไหน ไม่ใช่จะต้องไปเลียนแบบใคร เพราะการลบล้างบาปแบบของพระเจ้านั้นบนแท่นบูชานั้นเล็งไปที่กางเขนของพระเยซู ประชาชนคนเดินผ่านแท่นบูชาก็จะเห็นการเผาเครื่องบูชาเป็นเครื่องเตือนใจการทำบาปของมนุษย์ ทุกวันๆ
มวลมนุษย์ในโลกนี้ต่างก็เสาะแสวงหาหนทางที่จะพ้นบาป หากเราให้เขาเห็นแท่นบูชาปลอมๆแบบกษัตริย์อาหับที่มีแต่ของประดับหรูหรางดงาม จิตสำนึกในการยำเกรงต่อบาปหรือสะอิดสะเอียนต่อบาปก็จะไม่มีเลย
แท่นเผาบูชาของเรายังคงเป็นงานของพระเยซูเปล่าๆหรือเปล่าครับ ให้คนที่เขามาหาพระเยซูพบกับแท่นบูชาเปล่าๆดีกว่านะครับ
หากว่าอยากจะรู้ว่าแท่นสมัยพระคัมภีร์กับปัจจุบันต่างกันอย่างไร พิมพิ์คำว่า Altar ในกูเกิ้ลหรือดูจากลิงค์นี้ก็ได้นะครับ
ขออภัยกษัตริย์อาหัสครับ
ตอบลบ