จริงๆแล้วคริสเตียนไม่ต้องแสวงหาพระเจ้าแล้ว ถ้าเขาได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์เจ้ามาเป็นผู้ช่วยให้รอดของเขา นั่นก็คือการพบกับพระผู้เป็นเจ้าแล้ว แต่ที่คริสเตียนพูดกันว่าแสวงหาพระเจ้าในทุกวันนี้ก็คือการแสวงหาการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าหรือการอยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้านั่นเอง ถามว่าอ้าว..เมื่อเป็นคริสเตียนแล้วก็ต้องอยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้าสิ หรือพระเจ้าก็อยู่ด้วยเมื่อเป็นคริสเตียนไม่ใช่หรือ ใช่และไม่ครับ แน่นอนพระองค์ทรงสถิตอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งได้ในเวลาเดียวกัน ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้า หรือเป็นจ้าวของทุกสิ่งในโลกและกัลปจักรวาลของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นมา และทรงสถิตอยู่กับประชากรของพระองค์ตามพระสัญญาที่จะทรงอยู่กับเราในทุกสถานะการณ์ จะทรงเปลี่ยนจากสิ่งร้ายกลายเป็นดีและทรงสัญญาว่าจะอยู่กับเราตลอดไปจนกว่าจะสิ้นยุค แต่แปลกที่คริสเตียนยิ่งวิ่งหาพระเจ้าที่โน่นที่นี่อยู่ตลอดเวลา ทั้งที่พระองค์สถิตอยู่กับเราทุกเวลา
แล้วเมื่อไหร่ที่การทรงสถิตของพระเจ้าไม่ได้อยู่กับเรา ก็เมื่อเราหนีพระพักตร์พระเจ้าไปยุ่งวุ่นวายหรือหลงไปตามเนื้อหนังทำบาป ไม่ได้ไว้วางใจพระองค์จนเราพบว่าพระเจ้าไม่ได้สถิตอยู่ด้วยกับเรา
ด้วยเหตุนี้ที่เราได้ยินคำว่าจงแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้าอยู่เสมอ หรือดำรงอยู่ในพระสถิตของพระเจ้าตลอดเวลานั่นเอง

การแสวงหาพระเจ้า
ไม่ได้หมายถึงตั้งหน้าตั้งตามองหาพระเจ้าที่โน่นที่นี่ หรือวิ่งไปวิ่งมาหาพระเจ้าในที่หนึ่งที่ใดพิเศษ จริงๆคือการตั้งจิตใจต่อพระเจ้า เป็นท่าทีและความรู้สึกนึกคิดของเราชื่นชอบในพระเจ้า
1 พศด.22.19
“..บัดนี้ จง ทุ่มเท จิตใจ และ ชีวิต ของ พวกท่าน ที่ จะ แสวงหา พระยาห์เวห์ พระเจ้า ของ พวกท่าน”
โคโลสี 3.1-2
1เพราะฉะนั้น เมื่อ พระเจ้า ทรง ทำ ให้ พวกท่าน เป็น ขึ้น มา ด้วยกัน กับ พระคริสต์ แล้ว ก็ จง แสวงหา สิ่ง ที่ อยู่ เบื้องบน ใน ที่ ซึ่ง พระคริสต์ สถิต อยู่ คือ ประทับ อยู่ เบื้องขวา ของ พระเจ้า 2จง เอาใจใส่ สิ่ง ที่ อยู่ เบื้องบน ไม่ ใช่ สิ่ง ที่ อยู่ บน แผ่นดิน โลก
การแสวงหาสิ่งเบื้องบน ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องของการคิดสิ่งที่อยู่ในที่สูง สวรรค์สถานหรือการเจิมพิเศษ หรือได้รับประสบการณ์สุดยอดกับพระเจ้าเท่านั้น อ.เปาโลบอกว่า” 5ขอ องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรง นำ ใจ ของ ท่านทั้งหลาย ให้ เข้า ถึง ความ รัก ซึ่ง มา จาก พระเจ้า และ ถึง ความ ทรหด อดทน ซึ่ง มา จาก พระคริสต์” 2 เธสะโลนิกา3.5
ถ้าเราตั้งใจที่จะแสวงหาการสถิตของพระเจ้าและสิ่งของเบื้องบนจริงๆ พระเจ้าอยู่ในการกระทำแห่งความรัก ผลของความรักท่ามกลางคนทั่วๆไปในชีวิตประจำวันของเรานี่เอง มีความอดทนอดกลั้นที่มาจากพระเยซูคริสต์ เราก็จะเห็นสวรรค์ท่ามกลางผู้คนและสถานะการณ์เหล่านี้ เมื่อเราให้ความคิดอ่านของเราอยู่ในพระเจ้าตลอดเวลา พระองค์พร้อมจะเปิดเผยความจริงและความหมายต่างๆของพระองค์ให้กับเราเช่นกัน
จิตวิญญาณที่หย่อนยาน ขาดความกระตือรือร้น มักจะหลงทำผิดเดิมๆอยู่อย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้แหละจะปิดกั้นหนทางที่เราแสวงหาการทรงสถิตของพระเจ้าในชีวิตเรา นานวันเข้าหากไม่เอาจริงเอาจังมันก็จะปิดหูปิดตาเรา ไม่ให้เราอยู่ในความจริงของพระเจ้า
เราจะต้องร้องเรียกแสวหงพระพักตร์ของพระเจ้าในใจของเราตลอดเวลา
อิสยาห์ 55.6 จง แสวงหา พระยาห์เวห์ ขณะที่ จะ พบ พระองค์ ได้ จง ทูล พระองค์ ขณะที่ พระองค์ ทรง อยู่ ใกล้
โยบ 8.5-6 ถ้า ท่าน เอง จะ แสวงหา พระเจ้าและ วิงวอน องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์6ถ้า ท่าน บริสุทธิ์ และ เที่ยงธรรม แน่ละ พระองค์ จะ ทรง เฝ้าระวัง ท่านและ จะ ทรง บูรณะ ที่ อาศัย อัน ชอบธรรม ของ ท่าน
อุปสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ จิตวิญญาณเย่อหยิ่งผยอง แต่ผู่ที่ถ่อมใจแสวงหาการทรงสถิตของพระเจ้าอย่างสุดหัวใจก็จะพบพระองค์
ฮีบรู 11.6 เพราะว่า ผู้ ที่ จะ มา เฝ้า พระเจ้า นั้น ต้อง เชื่อ ว่า พระองค์ ทรง ดำรง พระชนม์ อยู่ และ พระองค์ ทรง เป็น ผู้ ประทาน บำเหน็จ แก่ คน เหล่านั้น ที่ แสวงหา พระองค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น